เกิดที่ บวกค้าง ประเทศไทย พ.ศ. 2503
อาศัยและทำงานอยู่ในเชียงใหม่
อุโมงค์ของผู้คน (People’s Tunnel), 2024
โครงสร้างโลหะ, สีน้ำมันบนผ้าใบ
220 ซม. x 150 ซม. x 500 ซม.
“อุโมงค์ของผู้คน” เป็นงานติดตั้งเชิงโพลีโครเมติกและแสนดื่มด่ำ โครงสร้างสร้างขึ้นจากเหล็ก ปกคลุมด้วยแถบผ้าใบที่ทาสีหลากหลายขนาด จากภายนอก อุโมงค์ดูโดดเด่นและมีสีสัน ราวกับลวดลายที่เลียนแบบทุ่งดอกไม้โดยรอบ แสงอาทิตย์มีบทบาทสำคัญ ทำให้เฉดสีพาสเทลดูมีชีวิต เหมือนการมองผ่านโลกภายในโลกอีกใบ อุโมงค์นี้มีลักษณะโค้งเล็กน้อย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ศิลปินออกแบบเช่นนี้ ผู้ชมสามารถเห็นทางออกได้ชัดเจนเมื่อยืนอยู่ตรงกลาง ภายในอุโมงค์ แสงแดดที่ส่องผ่านผ้าใบก่อให้เกิดเงาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อุโมงค์นี้เปรียบเสมือนช่องทางที่พลังงานเปิดกว้างโดยไม่มีข้อกำหนดล่วงหน้า
เสาแห่งผู้คน (People’s Pillar), 2024
เสาโลหะ, สีน้ำมันบนผ้าใบ
40 ซม. x 40 ซม. x 600 ซม. (10 ชิ้น)
“เสาแห่งผู้คน” เป็นชุดเสาเหล็ก 10 ต้น แต่ละต้นประดับด้วยแถบผ้าใบที่ทาสีวางกระจายอยู่ในทุ่งโล่ง เสาเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นจุดสังเกตทางสายตาที่เชื่อมต่อภูมิทัศน์โดยรอบ สร้างระบบนำทางในพื้นที่ธรรมชาติ เสาเหล่านี้แทรกสีสันเข้าไปในทุ่งนา ดึงดูดให้ผู้ชมเข้าไปสัมผัสกับภูมิทัศน์ทั้งในแง่สายตาและประสบการณ์ เสาแต่ละต้นจะเปลี่ยนแปลงตามลม แสง และพื้นที่ สร้างบทสนทนาที่ไม่หยุดนิ่งกับสิ่งแวดล้อม
บีบ (Squeeze), 2024
สีน้ำมันบนผ้าใบ
30 ซม. x 30 ซม. (36 ชิ้น), 20 ซม. x 20 ซม. (1 ชิ้น)
“บีบ (Squeeze)” เป็นการทดลองเกี่ยวกับกายภาพและการมีอยู่ของวัสดุ ประกอบด้วยส่วนผสมที่หนาแน่นและสัมผัสได้ ซึ่งเป็นผลงานที่ศิลปินทำเองที่บ้าน ใช้วัสดุระหว่างน้ำมันลินซีด และเม็ดสีที่ถูกทาลงบนแผ่นผ้าใบอย่างสม่ำเสมอ ซีรีส์นี้ซึ่งเป็นวิวัฒนาการจากซีรีส์ “ทุบทลาย (Smashed)” ก่อนหน้านี้ ชวนให้นึกถึงแรงของเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมหนัก แต่ด้วยความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ความรู้สึกของน้ำหนักและแรงโน้มถ่วงจะถูกเตือนด้วยสายตาและสัมผัส การกระทำที่กดด้วยท่าทางเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นการประกาศถึงการมีอยู่ โดยบันทึกช่วงเวลาแห่งแรงกระแทกที่ทรงพลังเป็นรอยประทับที่คงอยู่ยาวนานบนพื้นผิว
ศาลาจิตรกรรม (Sala Murals), 2024
สีน้ำมันบนผ้าใบ
100 ซม. x 150 ซม. (6 ชิ้น), 50 ซม. x 150 ซม. (2 ชิ้น)
ศาลาจิตรกรรม (Sala Murals) นำเสนอผลงานด้วยรูปแบบนามธรรมและโทนสีดินที่ให้ความรู้สึกราวกับว่าหลุดออกมาจากโลกยุคโบราณ ผลงานแต่ละชิ้นดูเหมือนเป็นเศษชิ้นส่วนที่ขุดพบจากแหล่งโบราณคดีที่มีร่องรอยของความต้องการของมนุษย์ในการประกาศข่าวประเสริฐ สื่อถึงร่องรอยดั้งเดิมของความต้องการในการสื่อสารและการทำให้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์มีความศักดิ์สิทธิ์มาช้านาน รูปทรงมีความละเอียดอ่อนจนบางครั้งแทบมองไม่เห็น ราวกับว่าถูกกัดเซาะด้วยกาลเวลา
มิตร ใจอินทร์ เป็นศิลปินร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากผลงานศิลปะที่ใช้สีเป็นหลัก มิตรใช้ เกรียง มือ และนิ้วสร้างสรรค์ผลงานที่สดใสและมีหลายชั้น ซึ่งท้าทายขอบเขตการวาดภาพแบบเดิม ๆ โดยผสมผสานทั้งงานที่ใช้มือและงานที่ใช้สายตา
ผลงานของเขามีรากฐานมาจากการการแสดงออกของลักษณะทางกายภาพอย่างเข้มข้น ทำหน้าที่เป็นช่องทางในการตอบสนองต่อบริบทด้านสุนทรียศาสตร์ สังคม และการเมือง ผลงานของเขาสะท้อนประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การแบ่งแยกแบบดั้งเดิมระหว่างงานจิตรกรรม “ตะวันตก” และ “ตะวันออก” ไปจนถึงภูมิทัศน์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศไทย ตั้งแต่กลับมายังประเทศไทยในปี 2535 มิตรได้มีส่วนร่วมในแคมเปญศิลปะที่เกี่ยวข้องกับสังคมและการเมือง เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งโครงการสามโครงการที่เป็นศูนย์กลางของแนวทางปฏิบัติและวาทกรรมศิลปะของไทย ได้แก่ Chiang Mai Social Installation, Midnight University และ The Land Foundation ในปี 2558 เขาก่อตั้ง Cartel Artspace ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแกลเลอรีที่ให้พื้นที่ฟรีแก่ศิลปินในการสะท้อนประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศและภูมิภาคและบริบทปัจจุบัน ในปี 2560 เขาร่วมริเริ่มงาน Bangkok Biennale