ติงส์แมทเทอร์ (ศาวิณี บูรณะศิลปิน และทอม แดนแนกเกอร์)

Ligature, 2561-ต่อเนื่อง/2018-ongoing
ไม้ไผ่และเหล็ก, 150 x 210 x 40 ซม.

ไม้ไผ่ ถือเป็นวัสดุวิเศษในภูมิภาคตะวันออกที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้คนในหลากหลายมิติ โดยเป็นสิ่งที่ถูกนำไปแปรรูปเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตผ่านรูปแบบที่หลาหลาย ซึ่งหนึ่งสิ่งดั้งเดิมที่มีไม้ไผ่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญคือ กระท่อม อันเป็นที่อาศัยพักพิงขนาดย่อมของมนุษย์ ประเด็นนี้กลายเป็นหมุดหมายและแรงบันดาลใจสำคัญให้ ติงส์แมทเทอร์ สตูดิโอสหวิทยาการที่นำโดย ศาวินี บูรณศิลปิน และ ทอม แดนเเนกเกอร์ คู่หูสถาปนิกที่ร่วมกันสร้างผลงานมามากกว่า 50 โครงการ ติงส์แมทเทอร์ ได้นำไม้ไผ่มาตีความใหม่สร้างเป็นผลงานแปลกตาในชื่อ Ligature ผลงานนี้ถูกออกแบบเป็นศาลาเปิดโล่งที่มีซุ้มคดโค้งยื่นออกมาสามทิศทาง โดยใช้ระบบทางคอมพิวเตอร์ในการประเมินการยึดโยงกันของไม้ไผ่ที่ไม่สมมาตรให้เกิดเป็นรูปร่าง ทว่าในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนถูกถักทอด้วยมือของมนุษย์ร่วมกับวัสดุยึดโยงอื่น ๆ แสดงถึงความเป็นงานหัตถกรรมที่ใช้ความยืดหยุ่นของไม้ไผ่หยอกล้อไปกับความหลากหลายของพื้นที่ และทำให้ผลงานนี้ง่ายต่อการโยกย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ พร้อมความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละบริบทของจุดที่มันตั้งอยู่ Ligature ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในงานประจำปีของสมาคมสถาปนิกสยาม (ASA) ก่อนถูกถอดย้ายไปประกอบใหม่เพื่อจัดแสดงในงาน แบงค็อก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งแรก และจิม ทอมป์สัน ฟาร์มถือเป็นที่พำนักแห่งสุดท้ายของงานชิ้นนี้ เกิดเป็นการสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันกับภูมิทัศน์อันกว้างใหญ่และเรือนไม้โบราณ ทำลายซึ่งระยะห่างระหว่างความเป็นเมืองและชนบท

ติงส์แมทเทอร์ เป็นสตูดิโอสหวิทยาการที่ลงหลักปักฐานในกรุงเทพฯ ก่อตั้งโดย ศาวินี บูรณศิลปิน นักออกแบบและศิลปินไทย ร่วมกับ ทอม เเดนแนกเกอร์ ศิลปินและนักออกแบบชาวอเมริกัน ผลลงานระยะเเรกของสตูดิโอคือการแทรกแซงพื้นที่พาณิชย์หลายแห่งเป็นการชั่วคราว โดยนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับบริโภคนิยมผ่านการใช้วัสดุสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลาย จัดแสดงงานตามห้างสรรพสินค้าหรืองานมหกรรมขายสินค้า เพื่อตอกย้ำถึงประเด็นการบริโภคผ่านพื้นที่ ผลงานของพวกเขามีการขยายวิธีการให้หลากหลายยิ่งขึ้น ตั้งแต่งานอีเวนท์ชั่วคราว ไปสู่สถาปัตยกรรมถาวร หรืออาคารที่พักอาศัย ความสนใจที่มากขึ้นในด้านวัฒนธรรมของสถาปัตยกรรม และวัสดุที่ไม่คงทนถาวร ทำให้ thingsmatter เริ่มเปลี่ยนวิธีการทำงานจากการโฟกัสสิ่งก่อสร้างทั่วไป สู่งานศิลปะมากยิ่งขึ้น